ครูผู้สอน

               จากการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ พบว่าการศึกษาไม่ใช่สิ่งที่ครูเป็นผู้ให้ : การศึกษานั้นคือกระบวนการทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองของแต่ละบุคคล และไม่ใช่โดยการฟังคำสอน แต่จากประสบการณ์ที่ได้รับจากสภาพแวดล้อม

               งานหลักของครูคือ การจัดเตรียมกิจกรรมต่างๆไว้เพื่อเป็นสภาพแวดล้อมที่มีการจัดเตรียมซึ่งสามารถตอบสนองต่อความต้องการในการเรียนรู้ของเด็กในแต่ละด้าน และหลีกเลี่ยงการเข้าไปแทรกแซงการทำงานของเด็ก ครูที่เป็นบุคคลสามารถช่วยเหลือการทำงานของเด็กได้แค่การเป็นผู้ช่วยเท่านั้นไม่ใช่ผู้สอน 

               ด้วยการปฏิบัติเช่นนั้น ครูจะพบการเปิดเผยของจิตวิญญานของมนุษย์ และการเกิด “คนใหม่” ผู้ที่จะไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ต่างๆ แต่จะมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนที่จะสรรค์สร้างสังคมมนุษย์ต่อไปในอนาคต

               มอนเตสซอรีเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเด็กปฐมวัยรายแรกที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าพื้นฐานสำคัญที่สุดเพียงสิ่งเดียวในการพัฒนาของเด็กก็คือจิตวิญญาน เธอมิได้เห็นเด็กเป็นเพียงวัตถุที่ว่างเปล่าซึ่งรอให้มีการนำข้อมูลมาเติมเต็ม แต่มองว่าเด็กเป็นบุคคลที่ต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมเหมาะสมที่เอื้อต่อการพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง เธอทราบดีว่าเด็กมีความเปราะบาง และไร้ประสบการณ์ จึงทำให้ยังต้องพึ่งพาผู้ใหญ่อยู่มาก และพบด้วยว่า จะเกิดความเสียหายต่อเด็กอย่างมากหากไม่ได้รับการพัฒนาที่ไม่เป็นไปตามวัยและช่วงความพร้อมโดยธรรมชาติของตน

               ฉะนั้น มอนเตสซอรีจึงขอให้ครูของเธอจงอย่าเข้าใจบทบาทของตนเองว่าเป็นผู้ที่ให้ความรู้ความเข้าใจกับเด็กอีกต่อไป  แต่บทบาทของครูคือสังเกตและช่วยเชื่อมโยงระหว่างเด็กกับสิ่งแวดล้อม เธออยากให้ครูเข้าใจอย่างถ่องแท้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่เบื้องหน้า และมีความรู้สึกตอบสนองที่ไวต่อการรับรู้ถึงความต้องการตามธรรมชาติของเด็กที่แสดงให้เห็น เธอเห็นว่าจิตวิญญานโดยธรรมชาติของเด็ก คือแรงผลักดันที่แท้จริงในการเรียนรู้ และต้องการให้ครูตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งดังกล่าว

               เธอขอให้ครูทั้งหลายซึ่งแน่นอนว่าต้องได้เรียนจิตวิทยาอยู่แล้วนั้น จงอย่าเรียนแต่เนื้อหาและวิธีการ แต่จงนำมาใช้วิเคราะห์ตนเองด้วย เพื่อจะได้เข้าใจความคิดของตนและเป็นประโยชน์ต่อการทำงานมากยิ่งขึ้น ด้วยวิธีนี้เธอรู้สึกว่า ครูเมองเห็นว่าอำนาจในด้านลบของผู้ใหญ่นั้นจะส่งผลกับเด็กโดยไม่รู้ตัวได้อย่างไร            

               “เราจะต้องลดบทบาทตัวเองลง และขจัดอคติที่แฝงอยู่ในใจออกไปให้สิ้น เราจะต้องไม่ปิดกั้นสิ่งต่างๆเหล่านี้ที่จะช่วยเราในการสอนเด็ก แต่เราต้องตรวจสอบทัศนคติในใจของความเป็นผู้ใหญ่ที่อาจทำให้เราไม่อาจเข้าใจเด็ก“

               เธอขอให้ครูเป็น “นักจิตวิทยามากกว่าการเป็นครู” และพบว่าครูประสบความสำเร็จในการพัฒนาตนเองเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีไหวพริบในการสังเกตเด็กแต่ละคนด้วย และในท้ายที่สุดเธอก็ได้เห็นว่าครูก็ไม่ได้มีบทบาทในการสอนมากไปกว่าเป็นเพียงผู้ชี้นำพลังโดยธรรมชาติของเด็กที่ปรากฏให้เห็นเท่านั้น

               จากการบรรยายที่เมืองบาร์เซโลน่า ปี ค.ศ.1933 หน้าที่ของครูที่ต้องปฏิบัติอย่างจริงจังเพื่อส่งเสริมการพัฒนาชีวิตมนุษย์ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการจัดเตรียมสำหรับเด็ก  มีดังนี้

  • ดูแลสภาพแวดล้อมของเด็กอย่างดีที่สุด ให้อยู่สภาพที่สะอาด และเรียบร้อย
  • แก้ไขซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอเสียหายด้วยวิธีการดัดแปลงหรือทาสีใหม่ หรือประดับประดาด้วยสิ่งของที่ดึงดูดความสนใจ “ดังเช่น ผู้ดูแลรักษาสถานที่ที่เตรียมแต่สิ่งสวยงามไว้ให้ผู้มาเยือน”
  • สอนวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์ต่างๆ ด้วยวิธีการปฏิบัติอย่างถูกต้อง ชัดเจน เพื่อให้ทุกๆ คนสามารถใช้ หรือทำตามได้อย่างถูกวิธี
  • ให้ครูผู้สอนมีความกระตือรือร้นในขณะที่นำเด็กให้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม และให้นิ่งเฉยเสียเมื่อเด็กปรับตัวได้
  • สังเกตุว่าเด็กคนใดที่ต้องการความช่วยเหลือและให้ความช่วยเหลือเมื่อเด็กต้องการ
  • ให้ความช่วยเหลือแก่เด็กทุกครั้งที่ร้องขอ
  • เคารพต่อเด็กที่กำลังทำงานโดยไม่เข้าไปรบกวน
  • เคารพต่อเด็กที่อาจปฏิบัติไม่ถูกต้อง โดยไม่ต้องทำการแก้ไข
  • เคารพต่อเด็กที่กำลังพักผ่อน หรือกำลังดูผู้อื่นเล่นอยู่ โดยไม่ขัดจังหวะ เรียกหา หรือสั่งให้กลับไปทำกิจกรรมที่ทำค้างอยู่
  • “ไม่เบื่อหน่าย” ต่อการที่ต้องหยิบยื่นของเล่นให้แก่เด็กแม้จะถูกปฏิเสธก็ตาม - รวมทั้งการสอนผู้ที่ยังไม่ได้รับความรู้ และผู้ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง – ทำให้สภาพแวดล้อมมีชีวิตชีวาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยยังอยู่ในสภาพที่สงบเรียบร้อย โดยใช้ถ้อยคำที่อ่อนโยน และอบอุ่น
  • ไม่รบกวนเด็กในระหว่างที่เด็กทำกิจกรรม ไม่ชมเมื่อเด็กทำถูกและไม่ตำหนิเมื่อเด็กทำผิด
  • ให้ความสนใจต่อเด็กที่ทำงานเสร็จสิ้น หรือเด็กที่ใช้ความพยายาม โดยการชื่นชมกับความพยายามของเด็ก

                “ฉันไม่ได้สอนมากนักในเรื่องเกี่ยวกับการให้ความรู้ อย่างน้อยคำแนะนำของดิฉันก็เป็นสิ่งที่คนเห็นว่าตลกขบขัน ควรหันหาอุปสรรคแทนการให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากฉันต้องพบปะกับบุคลิกภาพของคนที่หลากหลาย ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องว่าเธอจะปรับตัวของเธอให้เข้ากับโลกใหม่อย่างไร มากกว่าอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่เคร่งครัด